วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แมงป่องกับเด็ก


เเมงป่องกับเด็ก


เเม้จะสามารถจับจักจั่นได้มากถึง ๑๐ ตัว เเต่เด็กน้อยจอมซนก็ยังสนอกสนใจเเมงป่องตัวใหญ่ ที่เกาะอยู่บนตอไม้ริมทาง
“อย่าจับข้านะ ข้ามีเหล็กในที่ร้ายกาจที่สุดอยู่เจ้ารู้หรือไม่เจ้าเด็กน้อย”
เเมงป่องร้องเตือนขึ้น พร้อมทั้งชูหางขึ้นขู่ เเต่เด็กจอมซนกลับถามขึ้นว่าทำไมตนต้องกลัวเหล็กในด้วย
เเมงป่องจึงตอบว่าถูกเจ้าต่อยด้วยเหล็กในของข้า นอกจากเจ้าจะต้องเจ็บปวดเเล้ว ยังเจ้ายังจะต้องเสียจักจั่นนับสิบตัวที่มีไปอีกด้วย
เเต่ด้วยความซน เด็กน้อยจึงเอื้อมมือออกไปจับเเมงป่อง เเล้วก็ถูกเเมงป่องต่อยใส่เอาทีมือ  ทันใดนั้นความเจ็บปวดก้แล่นขึ้นมาในทันที  ทำให้เด็กน้อยเจ็บปวดยิ่งนักจนต้องสะบัดมือ พร้อมทั้งโยนจักจั่นทั้งหมดทิ้งไป

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
- ความไม่รู้จักพออาจนำหายนะมาให้


อ่านต่อ: http://www.nithan.in.th/

กระต่ายกับเต่า 


กระต่ายกับเต่า

มีอยู่ในวันหนึ่ง ได้มีเต่าตัวหนึ่งคลานอย่างช้าๆ มาตามวิสัยของมัน และที่ตรงอีกทางด้านหนึ่งก็ได้มีกระต่ายตัวหนึ่งวิ่งผ่านมา ทางนั้นเข้าอย่างบังเอิญด้วยความรวดเร็ว “ฮิฮิ! นี่เจ้าเต่า นายชอบ ที่จะเดินต่วมเตี้ยม ๆ อยู่อย่างนี้เสมอ ๆ ทำไมนายถึงได้เดินได้ช้าอย่างนั้นเล่า? ” เต่าจึงได้พูดว่า ” ถึงแม้ว่าข้าจะเดินได้ช้า แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของความอดทนแล้วข้าไม่เคยแพ้ใคร ”
” นายลองมาแข่งขันวิ่งไปที่บนยอดเขานั่นกับข้าดูเอาไหมล่ะ ? ” กระต่ายเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็หัวเราะลั่นง “ฮ่ะ ฮ้า น่าสนใจมาก เลยทีเดียว แต่รับรองได้ว่าไม่มีทางที่เจ้าจะ เอาชนะข้าไปได้หรอก มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย” กระต่ายเที่ยวไปเรียกพวกพ้องให้มาชุมนุมกันอย่างทันทีทันใด รวมทั้งให้เป็นกรรมการใน การแข่งขันอีกด้วย ” ทุก ๆ คนมาดูและเป็นสักขีพยานว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ในการแข่งขันวิ่งเร็ว ระหว่างเต่าโง่กับตัวข้า..ฮ่ะฮ่ะ ”
” เตรียมพร้อม !,ไป ” พอสิ้นเสียงบอกสัญญาณเริ่มการแข่งขันโดยสุนัขจิ้งจอก แล้วทั้งเต่าและกระต่ายก็เริ่มออกวิ่งไปพร้อม ๆ กัน ” ปิย้อง ปิย้อง ” กระต่าย กระโดดออกวิ่งนำหน้าไปด้วยความเร็วสูง เผลอแผลบเดียวมันก็วิ่งมาจนถึงที่ตรงจุดกึ่งกลาง ของทางระหว่างภูเขา มันจึงได้หยุดวิ่ง ” เจ้าเต่ามันมาถึงไหนแล้วล่ะ ? ” พูดแล้วมันก็ได้หันไปดู และก็ได้เห็นว่าเต่านั้นยังคงคลานตามมาอย่างช้า ๆ มองเห็นไกล ๆ
พวกผู้ชมที่มาชุมนุมกันต่างก็หัวเราะและได้พูดว่า ” ท่านเต่า..ท่านเต่า ท่านนี่ ช่างวิ่งได้ช้ามาก อาจที่จะพูดได้ว่าเดินได้ช้าที่สุดในโลกเลยก็ได้..ฮ่ะฮ่ะ ” แม้ว่าจะได้ยินแบบนั้นแต่เต่าก็ไม่สนใจอะไรยังคงคลานของมันต่อไปด้วยความเงียบสงบอย่าง ตั้งใจเพื่อที่จะให้ไปถึงที่บนยอดเขาโดยไม่คิดที่จะหยุดพักผ่อน ข้างฝ่ายกระต่ายเมื่อรอเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าเจ้าเต่าจะตามมาทันมันสักที…มันจึงเริ่ม นึกเบื่อกับการรอคอย ” เจ้าเต่ามันยังคงคลานอยู่อีกตั้งไกล นอนรอซักงีบหนึ่งคงได้.. ถึงยังไงมันก็ไม่มีทางที่ตามมาทันได้หรอก” มันพูดแล้วก็ล้มตัวลงนอน แล้วหลับไปตรง ที่กลางทางตรงภูเขานั่นเอง
ในขณะที่กระต่ายกำลังหลับอยู่อย่างสนิท เต่าซึ่งได้เดินมาอย่างไม่คิดที่ จะหยุดพักผ่อนนั้น ” ถึงแม้ว่าขาของข้าจะสั้นเดินได้ช้าก็จริงแต่เรื่องของ ความอดทนแล้วข้าไม่เคยยอมแพ้ให้ใคร ข้าจะต้องทำดีที่สุดเท่าที่ข้าจะทำได้!” หลังจากที่ในขณะที่เต่าได้เดิน มาจนถึงที่ตรงจุดกึ่งกลางของภูเขา พลันมันก็ได้ ยินเสียงหนึ่งซึ่งเป็นเหมือนกับเสียงกรนจากในที่แห่งหนึ่ง ” เสียงกรนที่ไหนนี่… อะฮ้า เจ้ากระต่ายนี่ มันมาแอบนอนหลับอยู่ที่นี่เอง”
ที่ใกล้ ๆ ตรงนั้นกระต่ายกำลังนอนหลับอยู่อย่างสุขสบาย ส่วนเต่านั้น ยังคงที่จะ เดินต่อไป…ทีละก้าว..ทีละก้าวอย่างจริงจังและอดทน และแล้วหลังจากนั้นชั่ว ขณะหนึ่งกระต่ายก็เริ่มรู้สึกตัวและสะดุ้งตื่นขึ้นมา ” เฮ้..เจ้าเต่า มันคลานมาจนถึงที่ไหนแล้วนี่?? ” มันรีบกวาดสายตามองหา แต่ก็ช้าและสายไปเสียแล้ว เพราะเมื่อมันมองไปที่ตรงจุดเส้นชัยที่อยู่บนยอดเขาโน่น มันก็ได้เห็นว่าเจ้าเต่ากำลังแสดง ความยินดีที่ได้รับชัยชนะอยู่อย่างมีความสุข..อยู่ในขณะนั้นเสียแล้ว

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น”


ที่มา: http://www.nithan.in.th/